ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ประเทศไทยเป็นเมืองที่ร้อนอบอ้าวมาก ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะชอบอากาศที่เย็น สบายตัว จึงจะหาวิธีคลายร้อนที่ต่างกันไป หลัก ๆ เลยทุกบ้านต้องมีเครื่องปรับอากาศอยู่แล้ว แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่สูง เนื่องจากแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลืองไฟมากที่สุดเลยก็ว่าได้
วันนี้ทางสยามเจริญแอร์อยากจะมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ ในหัวข้อเรื่อง
“ สาเหตุที่ทำให้แอร์เสื่อมสภาพเร็วและกินไฟมาก ” ทั้งนี้ทางเราจะพาทุกท่านไปไขข้อสงสัยว่าสาเหตุที่แท้จริงแล้วทำให้แอร์เสื่อมสภาพก่อนอายุไขและแอร์ที่กินไฟมาก มาจากสาเหตุใด เพื่อให้พ่อบ้านแม่บ้านมีความรู้และเป็นแนวทางในการใช้แอร์อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยมี 5 สาเหตุหลัก ดังนี้
1. ขนาด BTU ของแอร์ต่ำเกินไป ไม่เหมาะกับขนาดห้อง
2. ท่อน้ำยาแอร์ติดตั้งในระยะที่ยาวเกินกำหนด
3. ติดตั้งแอร์ใกล้ความชื้น
4. คอมเพรสเซอร์แอร์วางผิดตำแหน่ง
5. มีเหตุไฟตก หรือไฟกระชาก
เราลองมาทำความเข้าใจแต่ละหัวข้อดู ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรและแก้ไขอย่างไรได้บ้าง
BTU คือหน่วยวัดชนิดหนึ่งที่เป็นมาตราฐานหลักในการใช้ร่วมกับแอร์ ยิ่งตัวเลขมาก ยิ่งมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นมากขึ้น จึงต้องเลือกขนาดให้เหมาะสมกับขนาดห้องที่ติดตั้ง หากเลือกใช้ขนาด BTU ที่ไม่พอจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น แอร์ของคุณลูกค้าก็จะเสื่อมเร็วกว่าอายุไข จึงต้องเลือกซื้อขนาดให้สัมพันธ์กับห้องของลูกค้า
ระยะห่างระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน มีผลกับการทำความเย็นและอายุการใช้งานของแอร์ ยิ่งท่อมีระยะไกลมากส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์ซึ่งทำหน้าที่อัดแรงดันน้ำยาต้องทำงานหนักขึ้น แอร์จึงเย็นช้าลงและทำงานหนัก เป็นต้นเหตุการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากกว่าปกติและคอมเพรสเซอร์จะเสื่อมสภาพไวกว่าปกติอีกด้วย
*ตัวอย่างเช่น ระยะท่อแอร์เล็กขนาด 9,000 - 12,000 บีทียู จะมีระยะการเดินท่อน้ำยาแอร์โดยเฉลี่ยอยู่ไม่เกิน 10 - 15 เมตร สำหรับการเดินท่อในแนวนอน และไม่เกิน 5 เมตร สำหรับการเดินท่อในแนวตั้ง และอย่างน้อยที่สุดควรมีระยะของท่อน้ำยาแอร์ไม่น้อยกว่า 3 เมตร ระยะท่อที่กำหนดขึ้นอยู่กับขนาด BTU แอร์ของคุณลูกค้า
ตำแหน่งที่ควรติดตั้งแอร์ที่ดีไม่ควรอยู่ใกล้ที่ชื้น เนื่องด้วยแอร์มีหน้าที่หลักในการกำจัดความชื้นเพื่อก่อให้เกิดความเย็น ถ้าแอร์อยู่ใกล้ความชื้นมาก ๆ แอร์จะทำงานหนักเพื่อกำจัดความชื้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในการติดตั้งแอร์ ต้องออกแบบห้องให้มีความโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี ห้องไม่อับชื้น เป็นต้น
โดยปกติแล้วทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มีการผลิตคอมเพรสเซอร์รองรับกับสภาพอากาศภายนอกอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการยืดหยุ่นอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น โดยต้องติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ห่างจากผนังบ้านประมาณ 10 ซม. และบริเวณหน้าคอมเพรสเซอร์ไม่ควรมีสิ่งใดมาบดบัง ประมาณ 60 - 80 ซม จัดวางในตำแหน่งไม่โดนฝนสาดง่าย ไม่โดนแสงแดดโดยตรงตลอดทั้งวัน กรณีวางบนพื้นระเบียง ควรให้สูงกว่าพื้นประมาณ 10 ซม. เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
ปัจจุบันแอร์รุ่นใหม่จากหลาย ๆ แบรนด์ จะมีแผงวงจรเพื่อป้องกันผลกระทบจากไฟกระชากแล้ว และบางรุ่นมีการพัฒนาไปถึง เมื่อเกิดไฟดับแอร์จะจดจำค่าต่าง ๆ ไว้ หลังจากไฟติดแอร์จะกลับมาทำงานต่อจากเดิมตามปกติ การเลือกซื้อแอร์ในแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มีแผงวงจรการป้องกันและฟังก์ชันต่าง ๆ มารองรับ จึงเป็นตัวเลือกที่สำคัญในการตัดสินใจซื้อของคุณลูกค้าอีกด้วย
สรุปได้ว่า สาเหตุหลัก ๆ ทั้ง 5 ข้อนี้ ล้วนมีผลกระทบให้แอร์เสื่อมสภาพเร็วและกินไฟมาก หากพ่อบ้านแม่บ้านท่านไหนมีความรู้เบื้องต้นนี้ไว้ เผื่อได้ไปปรับใช้กับแอร์ที่บ้านได้ถูกต้อง จะช่วยยืดหยุ่นอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น ทำให้แอร์ที่บ้านของท่านประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ทางสยามเจริญแอร์อยากให้ทุกท่านเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสม ในการติดตั้งอยากให้ดูหลาย ๆ ปัจจัยก่อนการติดตั้งเพื่อที่จะให้แอร์ของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น หากมีข้อสงสัยหรืออยากปรึกษาในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน ก็สามารถ Inbox. เข้ามาปรึกษาทางเราได้ มีบริการปรึกษาฟรีหรือบริการเข้าสำรวจหน้างานโดยทีมงานคุณภาพ
สยามเจริญแอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแอร์ โดยทีมช่างแอร์ชำนาญงาน เราขายแอร์พร้อมติดตั้งทุกประเภท บริการด้านแอร์ทุกรูปแบบ ล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์ย้ายแอร์ ราคาถูก!
