การดูเเลเเละข้อควรระวังในการใช้เเอร์หน้าฝน

ฤดูฝนในประเทศไทยนั้นเป็นฤดูที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง อากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งร้อนจัด ฝนตกประปราย พายุลมแรงบ้าง สิ่งแรกเมื่อเข้าหน้าฝนที่จะหนีไม่พ้นเลยคือความชื้น ซึ่งเมื่อฝนตกแล้วทำการเปิดใช้แอร์จะทำให้ความชื้นจำนวนมากเกิดขึ้นภายในห้อง และความชื้นจะจับกลุ่มรวมตัวกันเป็นหยดน้ำ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งเชื้อโรค และสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในอนาคตได้ รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า อาจมีเรื่องฟ้าผ่าที่ทำให้ไฟตกหรือไฟดับ ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของแอร์และระบบต่าง ๆ ภายในตัวเครื่องปรับอากาศได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นมีเเอร์หลายยี่ห้อที่สามารถควบคุมความผันผวนของแรงไฟฟ้า หรือที่เรียกกันว่าระบบกันไฟกระชากนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นไฟตกหรือไฟดับที่อาจจะส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานผิดปกติซึ่งเราสามารถเลือกเองได้ วันนี้เราจึงมาบอกเล่าผลกระทบจากการใช้แอร์ในหน้าฝน พร้อมแนะนำวิธีการใช้และดูแลแอร์ในหน้าฝนอย่างไรให้เหมาะสมและถูกต้อง

1. Self Cleaning ฟีเจอร์ทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ
การทำงานของ Self Cleaning เป็นการทำความสะอาดคอยล์เย็นอัตโนมัติ โดยการเป่าลมความแรงต่ำหลังการใช้งาน 20 นาที เพื่อไล่ความชื้นจากแผงคอยล์เย็น ช่วยลดปัญหาความชื้นสะสมที่เป็นต้นกำเนิดของเชื้อราและกลิ่นอับ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในช่วงหน้าฝนที่ความชื้นสามารถสะสมได้ง่าย สำหรับใครที่เครื่องปรับอากาศไม่มีระบบ Self Cleaning สามารถเปิด Fan Mode หรือโหมดพัดลมแทนได้

2. Auto Restart ฟีเจอร์การกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง
ในหน้าฝน ช่วงที่ฝนตกหนักมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดฟ้าผ่า ฟ้าคะนอง ที่เป็นเหตุให้ไฟฟ้าดับหรือตกได้ Auto Restart จะช่วยให้การนอนของทุกคนไม่มีสะดุดเมื่อเกิดไฟดับ เพราะเครื่องปรับอากาศจะกลับมาทำงานทันทีเมื่อไฟฟ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม

3. Dry Mode โหมดลดความชื้นในอากาศ
เมื่อเวลาฝนตกอุณหภูมิภายนอกจะลดลงต่ำกว่าเดิมและมีความชื้นสูง โหมดลดความชื้นจะทำงานโดยคำนวณแรงลมอัตโนมัติเพื่อรักษาความเย็นให้พอเหมาะและลดความชื้นในอากาศ เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับลดอาการคัดจมูกหรือหายใจไม่สะดวกเหตุจากความชื้นสูง ทั้งยังช่วยรักษาแอร์เราช่วยให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไป

1. ปิดหน้าต่างหรือประตูที่เปิดไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันน้ำฝนที่จะกระเด็นเข้ามาในห้อง

2. เลือกใช้แอร์ที่มีฟังก์ชัน Dry เพื่อเป็นการดูแลความเย็นในห้องให้ปรับตัวได้อย่างเหมาะสม

3. รักษาความสะอาดของแอร์โดยเช็คทุก ๆ 2-3 วัน เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและการเกิดฝุ่นละออง หรือจะใช้ฟังก์ชัน Self-Cleaning ในแอร์ที่สามารถทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติภายใน 20 นาที โดยการลดอุณหภูมิให้ต่ำลงจนเกิดเป็นน้ำแข็งปกคลุมภายในเพื่อชะล้างสิ่งสกปรก ให้สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน

1.ติดตั้งสายดินทุกครั้ง
สิ่งที่ควรระวังเครื่องใช้ไฟฟ้าในหน้าฝนคือความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เนื่องจากมีความชื้นอยู่มาก ควรเช็คแอร์ของท่านว่ามีการติดตั้งสายดินหรือไม่ ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้าจากสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับเครื่องปรับอากาศว่ามีการรั่วหรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่วที่จะส่งผลต่อชีวิตของท่านได้

2. ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม
ในช่วงหน้าฝนอุณหภูมิอากาศด้านนอกลดลงทำให้อากาศเย็นสบาย หากต้องการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศควรพิจารณาจากอุณหภูมิของร่างกาย ปรับเพิ่มหรือลดลงทีละองศา ไม่ควรตั้งอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปเพื่อเป็นผลดีต่อสุขภาพ

3. ตำแหน่งการวางคอมเพรสเซอร์
ควรติดตั้งคอมเพรสเซอร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อป้องกันน้ำท่วมหรือสัตว์ต่าง ๆ เข้าไปอยู่ในคอมเพรสเซอร์ หากติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ต่ำจนเกินไป เมื่อเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมอาจส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์มีปัญหาและดับได้ 

4. ไฟตก ไฟดับ ต้องดึงเบรกเกอร์ลง
เมื่อฝนตกหนัก แอร์ดับขณะทำงาน ควรทำการดึงเบรกเกอร์แอร์ลงเพื่อป้องกันการจ่ายไฟเกิน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ภายในตัวแอร์ได้

5. ตรวจเช็กกลิ่นอับ
กลิ่นอับภายในบ้านมักเกิดขึ้นในหน้าฝน สาเหตุหลักเกิดจากความชื้นในอากาศ ดังนั้นควรที่จะเช็คทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ และใช้งานระบบ Self Cleaning ที่ช่วยเป่าลมไล่ความชื้นหลังจากการใช้งานเพื่อลดปัญหาความชื้นสะสมที่เป็นสาเหตุของเชื้อราและกลิ่นอับ เพื่อช่วยรักษาความสะอาดให้ดีต่อสุขภาพและยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ

ในกรณีที่เครื่องปรับอากาศไม่มีระบบ Self- Cleaning ก่อนทุกท่านจะเลิกใช้งานหรือปิดเครื่องปรับอากาศควรตั้งค่าเปลี่ยนเป็นโหมดพัดลมเพื่อระบายความชื้นภายในห้องและคอยล์เย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศ
ควรตั้งค่าระบบ Auto Restart เพื่อให้เครื่องปรับอากาศสามารถกลับมาทำงานอัตโนมัติ และที่สำคัญที่สุด ควรตรวจสอบกลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์ที่อาจจะออกมาจากในแอร์อย่างสม่ำเสมอโดยใช้วิธีการดึงแผ่นกรองอากาศมาทำความสะอาดเป็นประจำก็จะช่วยลดปัญหากลิ่นอับลงได้

ในหน้าฝนอากาศจะมีความชื้นมาก ก็จะสามารถช่วยลดปัญหาการเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ลงได้ และเครื่องปรับอากาศยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากหมั่นตรวจเช็คอย่างเป็นประจำ แม้จะเป็นหน้าฝน แอร์ของคุณก็สามารถใช้งานได้อีกยาวนาน หากเกิดปัญหาในกรณีฝนตกที่อาจส่งผลให้เกิดไฟตกหรือไฟดับ อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในหน้าฝน จำเป็นจะต้องมีความระมัดระวังให้มั่นใจ ว่าได้รับการติดตั้งสายดินแล้วอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่วไหลด้วย เพียงเท่านี้ เราก็จะได้ใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างปลอดภัยในหน้าฝน แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพของตัวเราด้วย

" นอกจากนี้แล้วอย่าลืมรักษาสุขภาพในช่วงหน้าฝน รวมถึงดูแลเช็กสภาพเครื่องปรับอากาศกันด้วยนะคะ เพราะถึงแม้จะเป็นช่วงที่อากาศเย็นขึ้น ใช้แอร์ไม่บ่อยเท่าหน้าร้อน แต่แอร์บ้านยังคงต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่ออายุการใช้งานที่ยืนยาวให้กับเครื่องปรับอากาศด้วยค่ะ "